โตเกียวมารีน Good health ดีไหม เบี้ยประกันเท่าไหร่

ประกันสุขภาพเป็นสิ่งสำคัญที่หลายคนให้ความสนใจ โดยเฉพาะในยุคที่ค่ารักษาพยาบาลมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ หนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจคือ “โตเกียวมารีน Good Health” ซึ่งเป็นประกันสุขภาพเหมาจ่ายที่ได้รับความนิยมในช่วงที่ผ่านมา บทความนี้จะวิเคราะห์ว่าแผนประกันนี้ดีหรือไม่ มีเบี้ยประกันเท่าไหร่ และเหมาะสมกับใครบ้าง

ภาพรวมของโตเกียวมารีน Good Health

โตเกียวมารีน Good Health เป็นสัญญาเพิ่มเติมประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายที่ให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลในวงเงินสูง โดยมีจุดเด่นดังนี้:

โตเกียวมารีนประกันภัย
โตเกียวมารีนประกันภัย
  1. คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลแบบเหมาจ่ายตามจริง
  2. วงเงินคุ้มครองสูงสุดถึง 240 ล้านบาทสำหรับโรคร้ายแรง 18 โรค
  3. ครอบคลุมทั้งผู้ป่วยใน (IPD) และผู้ป่วยนอก (OPD)
  4. มีผลประโยชน์ค่าตรวจสุขภาพประจำปีและการฉีดวัคซีน
  5. อายุที่รับประกันได้ตั้งแต่ 11-70 ปี และต่ออายุได้ถึง 84 ปี

รายละเอียดความคุ้มครอง

ประกันสุขภาพ กู๊ด เฮลธ์ โตเกียวมารีน
ประกันสุขภาพ กู๊ด เฮลธ์ โตเกียวมารีน
  1. ผู้ป่วยใน (IPD):
    • ค่าห้องและค่าอาหาร: 2,000 – 25,000 บาทต่อวัน (ขึ้นอยู่กับแผนที่เลือก)
    • ค่ารักษาในห้อง ICU: จ่ายตามจริง สูงสุด 30 วันต่อการเข้าพักรักษาครั้งใดครั้งหนึ่ง
    • ค่ารักษาพยาบาลและค่าบริการทั่วไป: จ่ายตามจริง
    • ค่าแพทย์ตรวจรักษา: จ่ายตามจริง
    • ค่าศัลยแพทย์และหัตถการ: จ่ายตามจริง
  2. ผู้ป่วยนอก (OPD):
    • ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก: จ่ายตามจริง (จำนวนครั้งขึ้นอยู่กับแผนที่เลือก)
    • ค่ารักษากรณีอุบัติเหตุฉุกเฉิน: จ่ายตามจริงภายใน 24 ชั่วโมงหลังเกิดอุบัติเหตุ
  3. การรักษาเฉพาะทาง:
    • ค่าเคมีบำบัด รังสีบำบัด: จ่ายตามจริง
    • ค่าล้างไต: จ่ายตามจริง
    • ค่ากายภาพบำบัด: จ่ายตามจริง (จำนวนครั้งขึ้นอยู่กับแผนที่เลือก)
  4. ผลประโยชน์เพิ่มเติม:
    • ค่าตรวจสุขภาพประจำปี: 500 – 15,000 บาทต่อปี (ขึ้นอยู่กับแผนที่เลือก)
    • ค่าฉีดวัคซีน: รวมอยู่ในวงเงินค่าตรวจสุขภาพประจำปี
    • ค่ารถพยาบาลฉุกเฉิน: จ่ายตามจริง

ข้อดีของโตเกียวมารีน Good Health

โตเกียวมารีน Good health
โตเกียวมารีน Good health
  1. ความคุ้มครองสูง: วงเงินคุ้มครองเริ่มต้นที่ 5 แสนบาท และสูงสุดถึง 240 ล้านบาทสำหรับโรคร้ายแรง 18 โรค ซึ่งถือว่าสูงมากเมื่อเทียบกับประกันสุขภาพทั่วไป
  2. ไม่ต้องสำรองจ่าย: สามารถใช้บริการที่โรงพยาบาลในเครือข่ายโดยไม่ต้องสำรองจ่าย ซึ่งช่วยลดภาระทางการเงินในยามฉุกเฉิน
  3. คุ้มครองครอบคลุม: นอกจากค่ารักษาพยาบาลแล้ว ยังครอบคลุมค่าตรวจสุขภาพประจำปีและการฉีดวัคซีน ทำให้ได้ประโยชน์แม้ไม่เจ็บป่วย
  4. เบี้ยประกันแข่งขันได้: จากข้อมูลในเว็บบอร์ด Pantip พบว่าหลายคนเห็นว่าเบี้ยประกันของโตเกียวมารีน Good Health มีราคาที่แข่งขันได้เมื่อเทียบกับประกันสุขภาพเหมาจ่ายของบริษัทอื่น
  5. การเคลมง่าย: ผู้ใช้งานหลายคนรายงานว่าการเคลมประกันกับโตเกียวมารีนค่อนข้างง่ายและรวดเร็ว โดยเฉพาะเมื่อใช้บริการที่โรงพยาบาลในเครือข่าย
  6. ความยืดหยุ่นในการเลือกแผน: มีหลายแผนให้เลือกตามความต้องการและงบประมาณ ตั้งแต่แผนพื้นฐานไปจนถึงแผนที่ให้ความคุ้มครองสูงสุด

ข้อควรพิจารณา

  1. เงื่อนไขการคุ้มครอง:
    • มีระยะเวลารอคอย (Waiting Period) 30 วันสำหรับการเจ็บป่วยทั่วไป
    • มีระยะเวลารอคอย 120 วันสำหรับโรคบางชนิด เช่น ไส้เลื่อน ริดสีดวงทวาร เนื้องอก มะเร็ง เป็นต้น
    • มีระยะเวลารอคอย 300 วันสำหรับการตรวจสุขภาพประจำปีและการฉีดวัคซีน
  2. การปรับเบี้ยประกัน: เบี้ยประกันอาจมีการปรับเพิ่มขึ้นตามอายุที่เพิ่มขึ้นหรือประวัติการเคลม
  3. ข้อจำกัดด้านอายุ: แม้จะรับประกันถึงอายุ 70 ปี แต่ผู้ที่มีอายุมากอาจต้องจ่ายเบี้ยประกันที่สูงขึ้น
  4. เงื่อนไขการรับประกัน: อาจมีการพิจารณารับประกันตามประวัติสุขภาพ ซึ่งอาจส่งผลต่อเงื่อนไขความคุ้มครองหรือเบี้ยประกัน
  5. ข้อยกเว้นความคุ้มครอง: มีบางกรณีที่ไม่ได้รับความคุ้มครอง เช่น การตั้งครรภ์ การทำแท้ง โรคเรื้อรังที่เป็นมาก่อนทำประกัน เป็นต้น

เบี้ยประกันของโตเกียวมารีน Good Health

เบี้ยประกันของโตเกียวมารีน Good Health จะแตกต่างกันไปตามปัจจัยต่างๆ เช่น:

โตเกียวมารีน กู๊ด เฮลธ์
โตเกียวมารีน กู๊ด เฮลธ์
  • อายุของผู้เอาประกัน
  • เพศ
  • แผนความคุ้มครองที่เลือก
  • ประวัติสุขภาพ

ตัวอย่างเบี้ยประกันโดยประมาณ (ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขส่วนบุคคล):

  • อายุ 30 ปี: เริ่มต้นประมาณ 15,000 – 30,000 บาทต่อปี
  • อายุ 40 ปี: เริ่มต้นประมาณ 20,000 – 40,000 บาทต่อปี
  • อายุ 50 ปี: เริ่มต้นประมาณ 30,000 – 60,000 บาทต่อปี

หมายเหตุ: ตัวเลขดังกล่าวเป็นเพียงการประมาณการเบื้องต้น เบี้ยประกันที่แท้จริงอาจแตกต่างกันไปตามปัจจัยส่วนบุคคลและแผนที่เลือก

สำหรับผู้ที่สนใจทราบเบี้ยประกันที่แน่นอน แนะนำให้ติดต่อตัวแทนประกันหรือบริษัทโตเกียวมารีนโดยตรงเพื่อขอใบเสนอราคาที่เหมาะสมกับสถานการณ์ของแต่ละบุคคล

ประสบการณ์จากผู้ใช้งานจริง

จากการรวบรวมความคิดเห็นในเว็บบอร์ด Pantip พบว่าผู้ใช้งานส่วนใหญ่มีความพึงพอใจกับโตเกียวมารีน Good Health โดยมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้:

โตเกียวมารีน Good health Pantip
โตเกียวมารีน Good health Pantip
  1. การเคลม:
    • ผู้ใช้งานส่วนใหญ่รายงานว่าการเคลมไม่ยุ่งยาก โดยเฉพาะเมื่อใช้บริการที่โรงพยาบาลในเครือข่าย
    • มีผู้ใช้งานบางรายที่ประสบปัญหาในการเคลม เช่น ต้องสำรองจ่ายก่อนในบางกรณี หรือการพิจารณาเคลมใช้เวลานาน
  2. ความคุ้มค่า:
    • หลายคนเห็นว่าแผนประกันนี้คุ้มค่า โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาถึงวงเงินคุ้มครองที่สูงและผลประโยชน์เพิ่มเติม
    • มีผู้ใช้งานรายหนึ่งรายงานว่าสามารถใช้สิทธิ์เคลมค่ารักษาโควิด-19
  3. บริการ:
    • มีความคิดเห็นที่หลากหลายเกี่ยวกับการบริการของตัวแทนและบริษัท
    • บางคนรายงานว่าได้รับการบริการที่ดี ตัวแทนให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์และติดตามดูแลอย่างต่อเนื่อง
    • บางคนประสบปัญหาในการติดต่อหรือการให้ข้อมูล โดยเฉพาะในกรณีที่ต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วน
  4. ระยะเวลาในการพิจารณา:
    • มีรายงานว่าในบางกรณี การพิจารณาเคลมอาจใช้เวลานานถึง 90 วัน
    • ผู้ใช้งานบางรายแนะนำให้เตรียมเงินสำรองไว้ในกรณีที่ต้องสำรองจ่ายก่อน
  5. ความครอบคลุมของโรงพยาบาลในเครือข่าย:
    • หลายคนพอใจกับจำนวนโรงพยาบาลในเครือข่ายที่รองรับการใช้สิทธิ์โดยไม่ต้องสำรองจ่าย
    • มีข้อสังเกตว่าโรงพยาบาลชั้นนำส่วนใหญ่อยู่ในเครือข่าย แต่อาจมีข้อจำกัดในบางพื้นที่

ใครควรพิจารณาทำประกัน โตเกียวมารีน Good Health?

  1. ผู้ที่ต้องการความคุ้มครองสูง: เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการประกันสุขภาพที่ให้ความคุ้มครองสูง โดยเฉพาะในกรณีของโรคร้ายแรงที่มีค่าใช้จ่ายในการรักษาสูง
  2. ครอบครัวที่มีเด็กและผู้ใหญ่: ด้วยอายุรับประกันตั้งแต่ 11-70 ปี ทำให้สามารถทำประกันให้กับสมาชิกในครอบครัวได้หลายช่วงอายุ
  3. ผู้ที่ต้องการความคุ้มครองแบบครอบคลุม: เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการประกันที่ครอบคลุมทั้งการรักษาพยาบาลผู้ป่วยใน ผู้ป่วยนอก และสวัสดิการเพิ่มเติมอย่างการตรวจสุขภาพประจำปี
  4. ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อโรคร้ายแรง: ด้วยความคุ้มครองพิเศษสำหรับโรคร้ายแรง 18 โรค ทำให้เหมาะกับผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นโรคร้ายแรงหรือมีความเสี่ยงสูง
  5. ผู้ที่ต้องการความยืดหยุ่นในการเลือกแผน: มีหลายแผนให้เลือกตามความต้องการและงบประมาณ
  6. ผู้ที่ชอบใช้บริการโรงพยาบาลเอกชน: เนื่องจากมีเครือข่ายโรงพยาบาลที่รองรับการใช้สิทธิ์โดยไม่ต้องสำรองจ่าย

ใครอาจไม่เหมาะกับประกันนี้?

  1. ผู้ที่มีงบประมาณจำกัด: เบี้ยประกันอาจค่อนข้างสูงสำหรับบางคน โดยเฉพาะในแผนที่ให้ความคุ้มครองสูง
  2. ผู้ที่มีประกันสุขภาพอื่นอยู่แล้ว: หากมีประกันสุขภาพที่ให้ความคุ้มครองเพียงพออยู่แล้ว อาจไม่จำเป็นต้องทำเพิ่ม
  3. ผู้ที่มีโรคประจำตัวบางชนิด: อาจมีข้อจำกัดในการรับประกันหรือมีเงื่อนไขพิเศษสำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัวบางชนิด
  4. ผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ห่างไกล: อาจมีข้อจำกัดในการใช้สิทธิ์ที่โรงพยาบาลในเครือข่าย
  5. ผู้ที่ต้องการความคุ้มครองเฉพาะด้าน: เช่น ต้องการเฉพาะประกันอุบัติเหตุ หรือประกันโรคร้ายแรง อาจมีตัวเลือกอื่นที่เหมาะสมกว่า

ข้อแนะนำในการพิจารณาทำประกัน

โตเกียวมารีนประกันภัย 93 โรงพยาบาลในเครือ
โตเกียวมารีนประกันภัย 93 โรงพยาบาลในเครือ
  1. ประเมินความต้องการและงบประมาณ: พิจารณาว่าต้องการความคุ้มครองในระดับใด และมีงบประมาณเท่าไหร่สำหรับเบี้ยประกัน
  2. เปรียบเทียบกับแผนอื่น: ควรเปรียบเทียบความคุ้มครองและเบี้ยประกันกับแผนของบริษัทอื่นๆ ก่อนตัดสินใจ
  3. ตรวจสอบเครือข่ายโรงพยาบาล: ดูว่ามีโรงพยาบาลที่สะดวกใช้บริการอยู่ในเครือข่ายหรือไม่
  4. ศึกษาเงื่อนไขและข้อยกเว้น: อ่านรายละเอียดในกรมธรรม์อย่างละเอียด โดยเฉพาะเงื่อนไขและข้อยกเว้นความคุ้มครอง
  5. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม: หากมีข้อสงสัย ควรสอบถามตัวแทนหรือบริษัทโดยตรงเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ชัดเจน
  6. พิจารณาประวัติและฐานะทางการเงินของบริษัท: ตรวจสอบความมั่นคงทางการเงินและประวัติการจ่ายสินไหมของบริษัท

สรุป โตเกียวมารีน Good Health ดีหรือไม่?

โดยรวมแล้ว โตเกียวมารีน Good Health เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายที่ให้ความคุ้มครองสูง แต่การตัดสินใจว่าเหมาะสมหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยส่วนบุคคลหลายประการ

ข้อดีที่โดดเด่น ได้แก่ ความคุ้มครองที่ครอบคลุม วงเงินคุ้มครองสูง และการมีผลประโยชน์เพิ่มเติมอย่างการตรวจสุขภาพประจำปี อย่างไรก็ตาม ผู้ที่สนใจควรพิจารณาเรื่องเบี้ยประกันที่อาจสูงกว่าแผนอื่น และศึกษาเงื่อนไขความคุ้มครองอย่างละเอียด

ท้ายที่สุด การตัดสินใจทำประกันควรพิจารณาจากความต้องการส่วนบุคคล สถานะทางการเงิน และความคุ้มครองที่มีอยู่แล้ว การปรึกษากับที่ปรึกษาทางการเงินหรือตัวแทนประกันที่น่าเชื่อถือจะช่วยให้ได้ข้อมูลที่เหมาะสมสำหรับการตัดสินใจ