วิริยะประกันภัย 2+ ดีไหมคุ้มครองอะไรบ้าง

ประกันภัยรถยนต์เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับเจ้าของรถทุกคน ไม่เพียงแต่เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย แต่ยังเพื่อความอุ่นใจในการใช้รถใช้ถนน วิริยะประกันภัยเป็นหนึ่งในบริษัทประกันชั้นนำของไทยที่นำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันภัยรถยนต์หลากหลายรูปแบบ โดยหนึ่งในนั้นคือประกันภัยรถยนต์ประเภท 2+ ซึ่งเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ขับขี่ที่ต้องการความคุ้มครองที่มากกว่าประกันภาคบังคับ แต่ไม่ต้องการจ่ายค่าเบี้ยประกันสูงเท่ากับประกันชั้น 1

ประกันภัยรถยนต์ 2+ คืออะไร?

ประกันภัยรถยนต์ 2+ เป็นประกันภัยภาคสมัครใจที่ให้ความคุ้มครองมากกว่าประกันภาคบังคับ (พ.ร.บ.) แต่น้อยกว่าประกันชั้น 1 โดยคุ้มครองความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินของบุคคลภายนอก รวมถึงความเสียหายต่อตัวรถยนต์คันเอาประกันในกรณีสูญหายหรือไฟไหม้ และความเสียหายจากการชนกับยานพาหนะทางบก

วิริยะประกันภัย
วิริยะประกันภัย

ความคุ้มครองของประกันภัยรถยนต์ 2+ วิริยะประกันภัย

วิริยะประกันภัยนำเสนอประกันภัยรถยนต์ 2+ ที่ให้ความคุ้มครองครอบคลุมหลายด้าน ดังนี้:

  1. ความรับผิดต่อบุคคลภายนอก
    • ความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย: 500,000 บาท/คน (สูงสุด 10,000,000 บาท/ครั้ง)
    • ความเสียหายต่อทรัพย์สิน: 1,000,000 บาท/ครั้ง
  2. ความรับผิดต่อตัวรถยนต์
    • รถยนต์สูญหาย/ไฟไหม้: 100,000 – 300,000 บาท/ครั้ง (ขึ้นอยู่กับแผนที่เลือก)
  3. ความคุ้มครองตามเอกสารแนบท้าย
    • อุบัติเหตุส่วนบุคคล (ผู้ขับขี่ 1 คน ผู้โดยสาร 5 คน): 50,000 บาท/คน
    • ค่ารักษาพยาบาล (ผู้ขับขี่ 1 คน ผู้โดยสาร 5 คน): 50,000 บาท/คน
    • ประกันตัวผู้ขับขี่: 200,000 บาท/ครั้ง
  4. ความคุ้มครองตัวรถเอาประกันภัย
    • ความเสียหายรถชนรถ: 100,000 – 300,000 บาท/ครั้ง (ขึ้นอยู่กับแผนที่เลือก)
วิริยะประกันภัย 2+ รถเก๋ง
วิริยะประกันภัย 2+ รถเก๋ง

แผนประกันและราคา

วิริยะประกันภัยนำเสนอแผนประกันภัยรถยนต์ 2+ หลายระดับ ให้ผู้เอาประกันเลือกตามความต้องการและงบประมาณ:

  1. แผนทุนประกัน 100,000 บาท
    • ราคา: 6,104 บาท (จากราคาเต็ม 7,500 บาท)
    • เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการความคุ้มครองพื้นฐานในราคาประหยัด
  2. แผนทุนประกัน 200,000 บาท
    • ราคา: 7,162 บาท (จากราคาเต็ม 8,800 บาท)
    • เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการความคุ้มครองระดับกลาง
  3. แผนทุนประกัน 300,000 บาท
    • ราคา: 8,057 บาท (จากราคาเต็ม 9,900 บาท)
    • เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการความคุ้มครองสูงสุดในประเภท 2+

ทุกแผนมีการซ่อมแบบอู่และไม่มีค่าเสียหายส่วนแรก

ข้อดีของประกันภัยรถยนต์ 2+ วิริยะประกันภัย

  1. ความคุ้มครองครอบคลุม: ให้ความคุ้มครองทั้งความรับผิดต่อบุคคลภายนอกและความเสียหายต่อตัวรถในกรณีสูญหาย ไฟไหม้ และรถชนรถ
  2. ราคาประหยัด: เบี้ยประกันถูกกว่าประกันชั้น 1 แต่ให้ความคุ้มครองที่มากกว่าประกันภาคบังคับ
  3. ไม่ต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก: ในกรณีอุบัติเหตุที่เกิดจากการชนกับยานพาหนะทางบก
  4. ความยืดหยุ่น: มีแผนประกันให้เลือกหลายระดับตามความต้องการและงบประมาณ
  5. บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน: สามารถติดต่อศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ได้ตลอด 24 ชั่วโมงในกรณีเกิดอุบัติเหตุ
  6. ความน่าเชื่อถือของบริษัท: วิริยะประกันภัยเป็นบริษัทประกันชั้นนำที่มีประสบการณ์ยาวนานและมีความมั่นคงทางการเงิน
วิริยะประกันภัย 2+ รถกระบะ
วิริยะประกันภัย 2+ รถกระบะ

ข้อควรพิจารณา

  1. ขอบเขตความคุ้มครอง: ไม่คุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถในกรณีอื่นนอกเหนือจากรถชนรถ เช่น รถชนวัตถุอื่น หรือพลิกคว่ำ
  2. เงื่อนไขการคุ้มครองรถชนรถ: คู่กรณีต้องเป็นยานพาหนะทางบกที่จดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกเท่านั้น
  3. ข้อจำกัดด้านอายุรถ: สำหรับแผนซ่อมห้าง รับรถอายุไม่เกิน 5 ปี (เฉพาะรถเอเชีย) ส่วนแผนซ่อมอู่ทั่วไปไม่จำกัดอายุรถ แต่ราคารถ ณ ปัจจุบันต้องไม่ต่ำกว่า 125,000 บาท
  4. ข้อยกเว้นบางประเภทรถ: ไม่รับประกันรถ SPORT CAR และ SUPER CAR

กระบวนการซื้อประกันและการใช้บริการ

  1. การซื้อประกัน: สามารถซื้อออนไลน์ได้ง่ายๆ ใน 3 ขั้นตอน
    • เช็คเบี้ยประกันและความคุ้มครอง
    • กรอกรายละเอียด
    • ชำระเบี้ยประกัน
  2. ช่องทางการชำระเงิน:
    • บัตรเครดิต Visa / MasterCard
    • Rabbit Line Pay
    • สแกน QR Code ผ่าน Mobile Application ของธนาคาร
  3. การจัดส่งกรมธรรม์:
    • จัดส่งทางไปรษณีย์ตามที่อยู่ที่ระบุ
    • สำหรับลูกค้าที่เลือกรับกรมธรรม์อิเล็กทรอนิกส์ จะได้รับทันทีหลังชำระเงิน
  4. การแจ้งอุบัติเหตุ:
    • โทรศัพท์ 1557 ตลอด 24 ชั่วโมง
  5. การเปลี่ยนแปลงข้อมูลกรมธรรม์:
    • ติดต่อสาขาวิริยะประกันภัยใกล้บ้าน หรือโทร 1557

เงื่อนไขการยกเลิกกรมธรรม์

  1. กรณีผู้เอาประกันภัยบอกยกเลิก:
    • ยกเลิกวันเดียวกับที่ซื้อ (ก่อน 17.00 น.): คืนเงินเต็มจำนวน
    • ยกเลิกก่อนกรมธรรม์เริ่มคุ้มครอง: คืนเงินภายใน 7 วันทำการ
    • ยกเลิกหลังกรมธรรม์เริ่มคุ้มครอง: คืนเงินตามสัดส่วนระยะเวลาที่เหลือ
  2. กรณีบริษัทเป็นฝ่ายยกเลิก:
    • แจ้งล่วงหน้าอย่างน้อย 30 วัน
    • คืนเงินตามสัดส่วนระยะเวลาที่เหลือ

ประกันภัยรถยนต์ 2+ วิริยะประกันภัยเหมาะกับใคร?

  1. เจ้าของรถที่มีอายุการใช้งานมากกว่า 3-5 ปี: เนื่องจากมูลค่ารถลดลง การทำประกันชั้น 1 อาจไม่คุ้มค่า
  2. ผู้ที่ต้องการความคุ้มครองมากกว่า พ.ร.บ. แต่ไม่ต้องการจ่ายค่าเบี้ยประกันสูง: ประกัน 2+ ให้ความคุ้มครองที่มากกว่า พ.ร.บ. ในราคาที่ไม่สูงมาก
  3. ผู้ขับขี่ที่มีความมั่นใจในการขับรถ: เหมาะสำหรับผู้ที่มีประสบการณ์ขับขี่และมีความเสี่ยงต่ำในการเกิดอุบัติเหตุที่เกิดจากตัวเอง
  4. ผู้ที่ต้องการความคุ้มครองเฉพาะกรณีรถชนรถ: ประกัน 2+ คุ้มครองกรณีรถชนรถและมีความระมัดระวังในการขับขี่
  5. ผู้ที่จอดรถในที่ปลอดภัย: เนื่องจากประกัน 2+ คุ้มครองกรณีรถหายหรือไฟไหม้ จึงเหมาะกับผู้ที่มีที่จอดรถที่ปลอดภัย

ข้อควรระวังในการใช้ประกันภัยรถยนต์ 2+

  1. ไม่คุ้มครองอุบัติเหตุที่เกิดจากตัวเอง: หากคุณเป็นฝ่ายผิดในอุบัติเหตุที่ไม่ได้ชนกับรถคันอื่น เช่น ชนเสาไฟฟ้า หรือพลิกคว่ำ ประกัน 2+ จะไม่คุ้มครองความเสียหายของรถคุณ
  2. จำกัดวงเงินคุ้มครอง: แม้จะคุ้มครองกรณีรถชนรถ แต่วงเงินคุ้มครองอาจไม่เพียงพอหากเกิดความเสียหายรุนแรง
  3. ต้องระบุคู่กรณีได้: ในกรณีเกิดอุบัติเหตุ ต้องสามารถระบุคู่กรณีได้ชัดเจน หากเป็นกรณีชนแล้วหนี อาจไม่ได้รับความคุ้มครอง
  4. ข้อจำกัดด้านอายุรถและประเภทรถ: ควรตรวจสอบว่ารถของคุณอยู่ในเงื่อนไขที่สามารถทำประกัน 2+ ได้หรือไม่
  5. ไม่คุ้มครองอุปกรณ์ตกแต่งเพิ่มเติม: หากมีการติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติมนอกเหนือจากอุปกรณ์มาตรฐาน อาจไม่ได้รับความคุ้มครอง

เปรียบเทียบประกัน 2+ กับประเภทอื่น

เปรียบเทียบประกันรถยนต์
เปรียบเทียบประกันรถยนต์
  1. ประกัน 2+ vs ประกันภาคบังคับ (พ.ร.บ.)
    • ประกัน 2+ ให้ความคุ้มครองมากกว่า โดยเฉพาะในส่วนของความเสียหายต่อทรัพย์สินบุคคลภายนอกและความคุ้มครองต่อตัวรถ
    • พ.ร.บ. มีราคาถูกกว่าแต่คุ้มครองเฉพาะความเสียหายต่อชีวิตและร่างกายของบุคคลภายนอกเท่านั้น
  2. ประกัน 2+ vs ประกันชั้น 1
    • ประกันชั้น 1 ให้ความคุ้มครองครอบคลุมมากกว่า รวมถึงความเสียหายต่อตัวรถในทุกกรณี
    • ประกัน 2+ มีราคาถูกกว่าแต่คุ้มครองเฉพาะกรณีรถชนรถ สูญหาย และไฟไหม้
  3. ประกัน 2+ vs ประกัน 3+
    • ประกัน 2+ และ 3+ มีความคล้ายคลึงกัน แต่ 2+ จะคุ้มครองกรณีรถหายหรือไฟไหม้เพิ่มเติม
    • ประกัน 3+ มักมีราคาถูกกว่าเล็กน้อย

ทำไมควรเลือกประกัน 2+ กับวิริยะประกันภัย?

วิริยประกันภัย บริการลูกค้า
วิริยประกันภัย บริการลูกค้า
  1. ชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือ: วิริยะประกันภัยเป็นบริษัทประกันชั้นนำของไทยที่มีประสบการณ์ยาวนาน
  2. เครือข่ายอู่ซ่อมทั่วประเทศ: มีอู่ซ่อมพันธมิตรกระจายอยู่ทั่วประเทศ ทำให้สะดวกในการเข้ารับบริการ
  3. บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง: สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ตลอดเวลาผ่านหมายเลข 1557
  4. ความยืดหยุ่นในการเลือกแผนประกัน: มีแผนประกันให้เลือกหลากหลายตามความต้องการและงบประมาณ
  5. กระบวนการเคลมที่รวดเร็วและเป็นธรรม: มีระบบการจัดการสินไหมที่มีประสิทธิภาพ
  6. ส่วนลดสำหรับการต่ออายุ: ลูกค้าที่ไม่มีประวัติการเคลมอาจได้รับส่วนลดเมื่อต่ออายุกรมธรรม์

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับประกัน 2+ วิริยะประกันภัย

  1. Q: ประกัน 2+ คุ้มครองกรณีน้ำท่วมหรือไม่? A: ไม่คุ้มครอง ประกัน 2+ คุ้มครองเฉพาะกรณีรถชนรถ สูญหาย และไฟไหม้
  2. Q: สามารถผ่อนชำระค่าเบี้ยประกันได้หรือไม่? A: วิริยะประกันภัยอาจมีตัวเลือกการผ่อนชำระสำหรับลูกค้าบางกลุ่ม ควรสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกับตัวแทนหรือบริษัทโดยตรง
  3. Q: หากเกิดอุบัติเหตุนอกเวลาทำการ สามารถติดต่อใครได้บ้าง? A: สามารถติดต่อศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ที่หมายเลข 1557 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
  4. Q: ประกัน 2+ มีระยะเวลารอคอย (Waiting Period) หรือไม่? A: โดยทั่วไปไม่มีระยะเวลารอคอย แต่อาจมีเงื่อนไขพิเศษสำหรับบางกรณี ควรตรวจสอบรายละเอียดในกรมธรรม์
  5. Q: สามารถโอนประกัน 2+ ให้ผู้อื่นได้หรือไม่ หากขายรถ? A: โดยทั่วไปสามารถโอนได้ แต่ต้องแจ้งบริษัทประกันและอาจมีค่าธรรมเนียมในการดำเนินการ

สรุป ประกันรถยนต์ 2+ วิริยะประกันภัยดีไหม?

ประกันรถยนต์ 2+ ของวิริยะประกันภัยเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการความคุ้มครองที่มากกว่าประกันภาคบังคับ แต่ไม่ต้องการจ่ายค่าเบี้ยประกันสูงเท่ากับประกันชั้น 1 ด้วยความน่าเชื่อถือของบริษัท บริการที่มีคุณภาพ และความยืดหยุ่นในการเลือกแผนประกัน ทำให้เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับเจ้าของรถหลายคน

อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจเลือกทำประกันควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ อย่างรอบคอบ เช่น สภาพและอายุของรถ พฤติกรรมการใช้รถ และความเสี่ยงที่ยอมรับได้ นอกจากนี้ ควรเปรียบเทียบข้อเสนอจากบริษัทประกันอื่นๆ ด้วย เพื่อให้มั่นใจว่าได้รับความคุ้มครองที่เหมาะสมที่สุดกับความต้องการและงบประมาณของคุณ

สุดท้ายนี้ ไม่ว่าคุณจะเลือกทำประกันแบบใด สิ่งสำคัญที่สุดคือการขับขี่อย่างปลอดภัยและปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุและรักษาประวัติการขับขี่ที่ดี ซึ่งจะช่วยให้คุณได้รับเงื่อนไขและราคาประกันที่ดีในอนาคต