ในยุคที่ค่ารักษาพยาบาลมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ การมีประกันสุขภาพที่ให้ความคุ้มครองครอบคลุมจึงเป็นสิ่งสำคัญ โตเกียวมารีนประกันชีวิต บริษัทประกันชั้นนำของประเทศไทย ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ “ประกันสุขภาพเหมาจ่าย” ภายใต้ชื่อ “สัญญาเพิ่มเติมโตเกียว กู๊ด เฮลธ์” (Tokio Good Health) ที่ให้ความคุ้มครองสุขภาพแบบครบวงจร มาทำความรู้จักกับรายละเอียดของประกันสุขภาพเหมาจ่ายนี้กันครับ
ประกันสุขภาพเหมาจ่ายคืออะไร?
ประกันสุขภาพเหมาจ่าย คือ รูปแบบประกันสุขภาพที่ให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลแบบวงเงินรวมต่อปี โดยไม่แยกเป็นรายการย่อยๆ ผู้เอาประกันสามารถใช้วงเงินนี้ได้ตามจริงจนกว่าจะหมด ซึ่งแตกต่างจากประกันสุขภาพทั่วไปที่มักจะกำหนดวงเงินย่อยสำหรับแต่ละรายการ
จุดเด่นของสัญญาเพิ่มเติมโตเกียว กู๊ด เฮลธ์
- ความคุ้มครองสูง: ให้วงเงินคุ้มครองสูงสุดถึง 120 ล้านบาทต่อปี และเพิ่มเป็น 240 ล้านบาทสำหรับโรคร้ายแรง 18 โรคที่กำหนด
- ครอบคลุมทั้ง IPD และ OPD: คุ้มครองทั้งค่ารักษาพยาบาลกรณีผู้ป่วยใน (IPD) และผู้ป่วยนอก (OPD)
- ไม่ต้องสำรองจ่าย: สามารถเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลในเครือข่ายโดยไม่ต้องสำรองจ่าย
- อายุรับประกันสูง: รับประกันตั้งแต่อายุ 11-70 ปี และต่ออายุได้ถึง 84 ปี
- ผลประโยชน์เพิ่มเติม: มีค่าตรวจสุขภาพประจำปีและค่าฉีดวัคซีน
- ความยืดหยุ่น: มีแผนความคุ้มครองให้เลือกหลายระดับ
แผนความคุ้มครอง
โตเกียว กู๊ด เฮลธ์ มีแผนความคุ้มครองให้เลือก 9 แผน แบ่งเป็น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่
- VIP: แผน 2,000 / 3,000 / 4,000
- Premier: แผน 6,000 / 8,000 / 10,000
- Premier Loyal: แผน 12,000 / 15,000 / 25,000
ตัวเลขในชื่อแผนแสดงถึงค่าห้องและค่าอาหารต่อวันที่ได้รับความคุ้มครอง
ตารางเปรียบเทียบความคุ้มครอง
รายการ | VIP 2000 | VIP 3000 | VIP 4000 | Premier 6000 | Premier 8000 | Premier 10000 | Premier Loyal 12000 | Premier Loyal 15000 | Premier Loyal 25000 |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ผลประโยชน์สูงสุดต่อปี | 500,000 | 1,000,000 | 2,000,000 | 3,000,000 | 6,000,000 | 12,000,000 | 30,000,000 | 80,000,000 | 120,000,000 |
ผลประโยชน์สูงสุดต่อปี (18 โรคร้ายแรง) | 1,000,000 | 2,000,000 | 4,000,000 | 6,000,000 | 12,000,000 | 24,000,000 | 60,000,000 | 160,000,000 | 240,000,000 |
ค่าห้อง ค่าอาหาร ค่าบริการพยาบาล/วัน | 2,000 | 3,000 | 4,000 | 6,000 | 8,000 | 10,000 | 12,000 | 15,000 | 25,000 |
ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก/ครั้ง | 1,500 | 2,000 | 3,000 | 4,000 | 5,000 | 6,000 | 8,000 | 10,000 | 12,000 |
ค่าตรวจสุขภาพ/ปี | 3,000 | 5,000 | 7,000 | 10,000 | 12,000 | 15,000 | 20,000 | 25,000 | 30,000 |
รายละเอียดความคุ้มครอง
- ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยใน (IPD)
- ค่าห้อง ค่าอาหาร และค่าบริการพยาบาล
- ค่ารักษาพยาบาลและค่าบริการทั่วไป
- ค่าแพทย์ตรวจรักษา
- ค่าแพทย์ผ่าตัดและหัตถการ
- ค่ารักษาพยาบาลฉุกเฉินขณะเป็นผู้ป่วยนอก (เนื่องจากอุบัติเหตุ)
- ค่ารถพยาบาลฉุกเฉิน
- ค่ารักษาพยาบาลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
- ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก (OPD)
- ค่ารักษาพยาบาลแบบผู้ป่วยนอก
- ค่าตรวจวินิจฉัยทางรังสีวิทยาและการตรวจทางห้องปฏิบัติการ
- ค่ากายภาพบำบัด
- ผลประโยชน์เพิ่มเติม
- ค่าตรวจสุขภาพประจำปี
- ค่าฉีดวัคซีน
- ค่าบริการทางการพยาบาลพิเศษสำหรับการพักฟื้นที่บ้าน
- ความคุ้มครองพิเศษสำหรับโรคร้ายแรง
- ให้วงเงินความคุ้มครองเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า สำหรับ 18 โรคร้ายแรงที่กำหนด
โรคร้ายแรง 18 โรคที่ได้รับความคุ้มครองพิเศษ
- โรคมะเร็งระยะลุกลาม
- เนื้องอกในสมองชนิดที่ไม่ใช่มะเร็ง
- โรคไวรัสตับอักเสบขั้นรุนแรง
- การผ่าตัดเปลี่ยนตับ ตับอ่อน หรือการปลูกถ่ายไขกระดูก
- โรคโลหิตจางจากไขกระดูกไม่สร้างเม็ดโลหิต
- กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันจากการขาดเลือด
- การผ่าตัดเส้นเลือดเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจ
- โรคเส้นเลือดหัวใจตีบ
- การผ่าตัดลิ้นหัวใจโดยวิธีการเปิดหัวใจ
- การผ่าตัดเส้นเลือดแดงใหญ่ เอออร์ต้า
- ไตอักเสบลูปูส จากโรคซิสเต็มมิค ลูปูส อิริเธมาโตซูส
- ไตวายเรื้อรัง
- โรคหลอดเลือดสมองโป่งพองที่ต้องรักษาโดยการผ่าตัด
- โรคแรงดันในหลอดเลือดแดงปอดสูงแบบปฐมภูมิ
- โรคหลอดลมปอดอุดกั้นเรื้อรังขั้นรุนแรง/โรคปอดระยะสุดท้าย
- การผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจ ปอด หรือไต
- ภาวะกระดูกอักเสบเรื้อรังชนิดพะเจ็ท
- โรคหลอดเลือดสมองแตกหรืออุดตัน
ข้อดีของการทำประกันสุขภาพเหมาจ่าย
- ความคุ้มครองสูง: วงเงินคุ้มครองสูงถึง 120 ล้านบาทต่อปี (240 ล้านบาทสำหรับ 18 โรคร้ายแรง) ช่วยลดความกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล
- ความยืดหยุ่น: สามารถใช้วงเงินได้ตามจริงโดยไม่จำกัดจำนวนครั้ง ทำให้ไม่ต้องกังวลว่าจะเกินวงเงินย่อยในแต่ละหมวด
- ครอบคลุมทั้ง IPD และ OPD: ให้ความคุ้มครองทั้งกรณีผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาทุกรูปแบบ
- ไม่ต้องสำรองจ่าย: สามารถเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลในเครือข่ายได้โดยไม่ต้องสำรองจ่าย ช่วยลดภาระทางการเงิน
- ผลประโยชน์เพิ่มเติม: มีค่าตรวจสุขภาพประจำปีและค่าฉีดวัคซีน ช่วยส่งเสริมการดูแลสุขภาพ
- ความคุ้มครองพิเศษสำหรับโรคร้ายแรง: การเพิ่มวงเงินคุ้มครองเป็น 2 เท่าสำหรับ 18 โรคร้ายแรงที่กำหนด ช่วยให้มั่นใจได้ว่าจะมีความคุ้มครองเพียงพอในกรณีที่เกิดโรคร้ายแรง
- อายุรับประกันสูง: รับประกันถึงอายุ 70 ปี และต่ออายุได้ถึง 84 ปี ทำให้ผู้สูงอายุสามารถมีประกันสุขภาพที่ให้ความคุ้มครองสูงได้
ข้อควรพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้อ
- เบี้ยประกันภัย: แม้ว่าความคุ้มครองจะสูง แต่เบี้ยประกันภัยก็อาจสูงตามไปด้วย ควรพิจารณาความสามารถในการจ่ายเบี้ยประกันในระยะยาว
- ระยะเวลารอคอย: มีระยะเวลารอคอย 30 วันสำหรับการเจ็บป่วยทั่วไป และ 120 วันสำหรับโรคบางชนิด เช่น เนื้องอก มะเร็ง ไส้เลื่อน ริดสีดวงทวาร เป็นต้น
- เงื่อนไขการรับประกัน: ต้องผ่านการพิจารณารับประกันจากบริษัท ซึ่งอาจมีการตรวจสุขภาพหรือขอประวัติการรักษา
- โรคที่มีมาก่อนการทำประกัน: โรคที่เป็นมาก่อนการทำประกันอาจไม่ได้รับความคุ้มครอง หรือมีเงื่อนไขพิเศษ
- เครือข่ายโรงพยาบาล: ควรตรวจสอบรายชื่อโรงพยาบาลในเครือข่ายที่สามารถใช้บริการได้โดยไม่ต้องสำรองจ่าย
เงื่อนไขการฉีดวัคซีน
โตเกียว กู๊ด เฮลธ์ ให้ความคุ้มครองค่าฉีดวัคซีนหลังจากทำประกันมาแล้ว 300 วัน โดยครอบคลุมวัคซีนต่อไปนี้:
- วัคซีนป้องกันบาดทะยัก, โรคคอตีบ, ไอกรน (TDAP)
- วัคซีนไข้หวัดใหญ่
- วัคซีนป้องกันโรคปอดบวม
- วัคซีนไข้กาฬนกนางแอ่น
- วัคซีนสำหรับการเดินทาง
- วัคซีนไวรัสตับอักเสบเอ
- วัคซีนไทฟอยด์
- วัคซีนไข้สมองอักเสบญี่ปุ่น
- วัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า
- วัคซีนไข้เหลือง
- วัคซีนไวรัสตับอักเสบบี
- วัคซีนวัณโรค (BCG)
- วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
ข้อยกเว้นที่สำคัญ
- การตรวจรักษาหรือการผ่าตัดเพื่อเสริมสวย หรือการแก้ไขปัญหาผิวพรรณ สิว ฝ้า กระ รังแค ผมร่วง หรือการควบคุมน้ำหนักตัว
- การตั้งครรภ์ แท้งบุตร ทำแท้ง การคลอดบุตร โรคแทรกซ้อนจากการตั้งครรภ์ (ยกเว้นมะเร็งครรภ์ไข่ปลาอุก)
- การรักษาหรือการบำบัดการติดยาเสพติดให้โทษ บุหรี่ สุรา หรือสารออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท
- การตรวจรักษาความผิดปกติเกี่ยวกับสายตา การทำเลสิค
- การตรวจรักษา หรือผ่าตัด เกี่ยวกับฟัน หรือเหงือก (ยกเว้นกรณีอุบัติเหตุ)
คำถามที่พบบ่อย (FAQs)
- Q: ประกันนี้แตกต่างจากประกันสุขภาพทั่วไปอย่างไร? A: ประกันเหมาจ่ายให้วงเงินคุ้มครองรวมต่อปี สามารถใช้ได้ไม่จำกัดครั้งจนกว่าจะหมดวงเงิน ต่างจากประกันทั่วไปที่มักจำกัดวงเงินย่อยในแต่ละรายการ
- Q: สามารถซื้อประกันนี้ได้ตั้งแต่อายุเท่าไหร่? A: รับประกันตั้งแต่อายุ 11-70 ปี และสามารถต่ออายุได้ถึง 84 ปี
- Q: ต้องตรวจสุขภาพก่อนทำประกันหรือไม่? A: อาจต้องตรวจสุขภาพหรือให้ข้อมูลสุขภาพก่อนการรับประกัน ขึ้นอยู่กับอายุและประวัติสุขภาพของผู้สมัคร
- Q: สามารถนำค่าเบี้ยประกันไปลดหย่อนภาษีได้หรือไม่? A: สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ตามเงื่อนไขของกรมสรรพากร โดยลดหย่อนได้สูงสุด 25,000 บาท
- Q: เบี้ยประกันจะปรับขึ้นทุกปีหรือไม่? A: เบี้ยประกันอาจมีการปรับขึ้นทุกปีตามอายุที่เพิ่มขึ้นและปัจจัยอื่นๆ เช่น ประวัติการเคลม
ประโยชน์สำหรับแต่ละช่วงวัย
- วัยเด็กและวัยรุ่น (11-25 ปี)
- คุ้มครองค่ารักษาจากอุบัติเหตุและการเจ็บป่วยที่พบบ่อยในวัยเรียน
- ครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการฉีดวัคซีนที่จำเป็น
- รองรับค่าใช้จ่ายในการรักษาทันตกรรมจากอุบัติเหตุ
- วัยทำงาน (26-55 ปี)
- ให้ความคุ้มครองสูงสำหรับโรคร้ายแรงที่อาจเกิดขึ้น
- ครอบคลุมค่าตรวจสุขภาพประจำปี ส่งเสริมการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน
- รองรับค่าใช้จ่ายในการรักษาโรคที่เกี่ยวข้องกับความเครียดและการทำงาน
- วัยเกษียณ (56 ปีขึ้นไป)
- ให้ความคุ้มครองต่อเนื่องถึงอายุ 84 ปี
- ครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการรักษาโรคเรื้อรังที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ
- มีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินทางการแพทย์ตลอด 24 ชั่วโมง
การเลือกแผนความคุ้มครองที่เหมาะสม
- พิจารณาสถานะทางการเงิน: เลือกแผนที่คุณสามารถจ่ายเบี้ยประกันได้ในระยะยาว โดยไม่กระทบต่อค่าใช้จ่ายจำเป็นอื่นๆ
- ประเมินความเสี่ยงด้านสุขภาพ: หากมีประวัติครอบครัวเป็นโรคร้ายแรง อาจพิจารณาเลือกแผนที่ให้ความคุ้มครองสูง
- คำนึงถึงไลฟ์สไตล์: ผู้ที่ชอบเล่นกีฬาหรือทำกิจกรรมเสี่ยง อาจเลือกแผนที่ให้ความคุ้มครองอุบัติเหตุสูง
- ตรวจสอบสิทธิประกันสุขภาพที่มีอยู่: พิจารณาว่าแผนนี้จะเสริมกับสวัสดิการที่มีอยู่ได้อย่างไร เช่น ประกันสังคม หรือสวัสดิการข้าราชการ
- วางแผนระยะยาว: เลือกแผนที่สามารถปรับเปลี่ยนความคุ้มครองได้ในอนาคต เผื่อกรณีที่ความต้องการเปลี่ยนแปลง
ขั้นตอนการเคลมประกัน
- กรณีไม่ต้องสำรองจ่าย:
- แสดงบัตรประกันสุขภาพและบัตรประชาชนที่โรงพยาบาลในเครือข่าย
- โรงพยาบาลจะตรวจสอบสิทธิและดำเนินการเคลมกับบริษัทประกันโดยตรง
- ผู้เอาประกันจ่ายเฉพาะส่วนที่เกินวงเงินคุ้มครอง (ถ้ามี)
- กรณีต้องสำรองจ่าย:
- เก็บใบเสร็จและเอกสารการรักษาทั้งหมด
- กรอกแบบฟอร์มเรียกร้องค่าสินไหมของบริษัท
- ส่งเอกสารทั้งหมดให้บริษัทประกันภายใน 30 วันนับจากวันที่รับการรักษา
- บริษัทจะพิจารณาและจ่ายค่าสินไหมภายใน 15 วันทำการ
เทคโนโลยีและบริการเสริม
โตเกียวมารีนได้นำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้า ดังนี้:
- แอปพลิเคชันมือถือ: สำหรับตรวจสอบความคุ้มครอง, ค้นหาโรงพยาบาลในเครือข่าย, และแจ้งเคลมออนไลน์
- บริการปรึกษาแพทย์ทางไกล (Telemedicine): ให้คำปรึกษาด้านสุขภาพเบื้องต้นผ่านวิดีโอคอล
- ระบบแจ้งเตือนการตรวจสุขภาพ: ส่งการแจ้งเตือนเมื่อถึงกำหนดตรวจสุขภาพประจำปี
- บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง: ให้คำแนะนำทางการแพทย์และประสานงานกรณีฉุกเฉิน
การเปรียบเทียบกับคู่แข่งในตลาด
เมื่อเทียบกับประกันสุขภาพเหมาจ่ายของบริษัทอื่น โตเกียว กู๊ด เฮลธ์ มีจุดเด่นดังนี้:
- วงเงินคุ้มครองสูง: ให้ความคุ้มครองสูงสุดถึง 120 ล้านบาทต่อปี ซึ่งสูงกว่าคู่แข่งหลายราย
- ความคุ้มครองพิเศษสำหรับโรคร้ายแรง: การเพิ่มวงเงินเป็น 2 เท่าสำหรับ 18 โรคร้ายแรง เป็นจุดเด่นที่หลายบริษัทไม่มี
- อายุรับประกันสูง: รับประกันถึงอายุ 70 ปี และต่ออายุได้ถึง 84 ปี ซึ่งสูงกว่าประกันสุขภาพทั่วไปในตลาด
- ความยืดหยุ่นของแผน: มีแผนให้เลือกหลากหลาย ตั้งแต่ความคุ้มครองระดับพื้นฐานไปจนถึงระดับพรีเมียม
อย่างไรก็ตาม ควรพิจารณาเปรียบเทียบเงื่อนไขและราคากับบริษัทอื่นๆ ก่อนตัดสินใจ เนื่องจากความเหมาะสมขึ้นอยู่กับความต้องการและสถานการณ์ของแต่ละบุคคล
ข้อควรระวังและข้อพึงปฏิบัติ
- แจ้งข้อมูลสุขภาพตามความเป็นจริง: การปกปิดหรือแจ้งข้อมูลเท็จอาจทำให้สัญญาประกันเป็นโมฆียะได้
- ศึกษาเงื่อนไขและข้อยกเว้นอย่างละเอียด: เพื่อเข้าใจขอบเขตความคุ้มครองที่แท้จริง
- เก็บเอกสารการรักษาอย่างครบถ้วน: เพื่อความสะดวกในการเคลมประกัน
- แจ้งบริษัทประกันทันทีเมื่อเข้ารับการรักษา: โดยเฉพาะในกรณีฉุกเฉินหรือต้องเข้ารับการผ่าตัด
- ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด: เพื่อป้องกันปัญหาในการเคลมประกันในอนาคต
สรุป
สัญญาเพิ่มเติมโตเกียว กู๊ด เฮลธ์ ของโตเกียวมารีนประกันชีวิต เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการประกันสุขภาพที่ให้ความคุ้มครองสูงและครอบคลุม ด้วยจุดเด่นในเรื่องวงเงินคุ้มครองสูง ความยืดหยุ่นในการใช้วงเงิน และการครอบคลุมทั้ง IPD และ OPD ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการความมั่นใจในการรักษาพยาบาล
อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจทำประกันสุขภาพเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ ควรประเมินความต้องการด้านสุขภาพของตนเอง สถานะทางการเงิน และเปรียบเทียบกับผลิตภัณฑ์อื่นในตลาดก่อนตัดสินใจ นอกจากนี้ การปรึกษากับตัวแทนประกันหรือที่ปรึกษาทางการเงินอาจช่วยให้คุณเลือกแผนประกันที่เหมาะสมที่สุดสำหรับสถานการณ์ของคุณได้
ท้ายที่สุด การมีประกันสุขภาพที่ดีไม่เพียงแต่ให้ความคุ้มครองทางการเงิน แต่ยังช่วยให้คุณมีความมั่นใจในการดูแลสุขภาพและคุณภาพชีวิตของตนเองและครอบครัวในระยะยาวอีกด้วย