สรุปคะแนน ประกันรู้ใจดีไหม
หัวข้อ | คะแนน |
---|---|
ความน่าเชื่อถือ | ⭐⭐⭐⭐⭐ |
ผลิตภัณฑ์และบริการ | ⭐⭐⭐⭐ |
ราคา | ⭐⭐⭐⭐⭐ |
การเคลม | ⭐⭐⭐⭐ |
บริการลูกค้า | ⭐⭐⭐⭐⭐ |
ความสะดวก | ⭐⭐⭐⭐⭐ |
คะแนนรวม | 4.7/5 |
การเคลมประกันรู้ใจ
รู้ใจเป็นบริษัทประกันภัยออนไลน์ที่มุ่งเน้นการให้บริการที่สะดวกรวดเร็วผ่านช่องทางดิจิทัล โดยเฉพาะในขั้นตอนการเคลมประกัน ซึ่งถือเป็นจุดสำคัญที่ลูกค้าต้องการความช่วยเหลืออย่างทันท่วงที รู้ใจได้พัฒนาระบบและกระบวนการเคลมให้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในยุคดิจิทัล
ขั้นตอนการเคลมประกันรู้ใจโดยทั่วไป
- แจ้งเหตุทันทีที่เกิดอุบัติเหตุ
- โทรแจ้งที่หมายเลข 02 582 8844 (สายด่วน 24 ชั่วโมง)
- แจ้งผ่าน Roojai Mobile App
- ให้ข้อมูลเบื้องต้นแก่เจ้าหน้าที่
- หมายเลขกรมธรรม์
- ทะเบียนรถ
- สถานที่เกิดเหตุ
- ลักษณะความเสียหาย
- ปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่
- รอเจ้าหน้าที่สำรวจภัย (กรณีมีคู่กรณี)
- ถ่ายรูปความเสียหาย (กรณีไม่มีคู่กรณี)
- รับการประเมินความเสียหายเบื้องต้น
- เจ้าหน้าที่จะประเมินความเสียหายและแจ้งขั้นตอนต่อไป
- นำรถเข้าซ่อม
- ที่อู่ในเครือหรือศูนย์ซ่อมตามที่ตกลง
- รับรถคืนหลังซ่อมเสร็จ
- ตรวจสอบความเรียบร้อยก่อนรับรถ
- ประเมินความพึงพอใจ
- ให้คะแนนการบริการผ่านระบบออนไลน์
ช่องทางการเคลมประกันรู้ใจ
- โทรศัพท์
- หมายเลข 02 582 8844 (สายด่วน 24 ชั่วโมง)
- เจ้าหน้าที่พร้อมให้คำแนะนำตลอดเวลา
- Roojai Mobile App
- แจ้งเคลมได้ทันทีผ่านแอปพลิเคชัน
- ระบุตำแหน่งอัตโนมัติผ่าน GPS
- ติดตามสถานะการเคลมแบบเรียลไทม์
- เว็บไซต์ www.roojai.com
- แจ้งเคลมออนไลน์ผ่านหน้าเว็บ
- อัปโหลดเอกสารและรูปภาพ
- อีเมล [email protected]
- ส่งรายละเอียดและเอกสารประกอบการเคลม
- Line Official Account: @roojai
- แชทกับเจ้าหน้าที่เพื่อแจ้งเคลมและสอบถามข้อมูล
เอกสารที่ต้องเตรียมสำหรับการเคลมประกันรู้ใจ
- กรณีความเสียหายต่อรถยนต์ผู้เอาประกัน
- รายงานการเกิดอุบัติเหตุ
- สำเนาใบคู่มือจดทะเบียนรถยนต์
- หลักฐานความเสียหายที่เจ้าหน้าที่สำรวจภัยออกให้
- สำเนาตารางกรมธรรม์
- สำเนาใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ของผู้ขับขณะเกิดอุบัติเหตุ
- กรณีรถยนต์สูญหายหรือถูกโจรกรรม
- รายงานการเกิดอุบัติเหตุ
- สำเนาบัตรประชาชนหรือพาสปอร์ตของเจ้าของรถ
- สำเนาใบแจ้งความและผลการดำเนินคดีของตำรวจ
- เอกสารมอบอำนาจจากธนาคาร (กรณีติดไฟแนนซ์)
- กุญแจทุกดอก
- กรมธรรม์/ตารางกรมธรรม์ต้นฉบับ
- แบบฟอร์มการขอโอนของกรมการขนส่งทางบก
- ต้นฉบับใบคู่มือจดทะเบียนรถยนต์
- กรณีความเสียหายต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก
- หลักฐานความเสียหายที่เจ้าหน้าที่สำรวจภัยออกให้
- สำเนากรมธรรม์ประกันภัยคู่กรณี (ถ้ามี)
- สำเนาใบอนุญาตขับขี่ของผู้ขับขณะเกิดอุบัติเหตุ (คู่กรณี)
- ใบเสนอราคาค่าซ่อมรถยนต์หรือใบเสร็จค่าซ่อม
- สำเนาบัตรประชาชนหรือพาสปอร์ตของเจ้าของรถ (คู่กรณี)
- กรณีความเสียหายต่อชีวิต ร่างกายบุคคลภายนอก
- สำเนากรมธรรม์ประกันภัยรถคู่กรณี (ถ้ามี)
- สำเนาใบอนุญาตขับขี่ของผู้ขับขณะเกิดอุบัติเหตุ รถคู่กรณี (ถ้ามี)
- สำเนาบัตรประชาชนหรือพาสปอร์ตของผู้บาดเจ็บ
- สำเนาใบแจ้งความและผลการดำเนินคดีของตำรวจ (ถ้ามี)
- ต้นฉบับใบเสร็จค่ารักษาพยาบาล
- ใบรับรองแพทย์
วิธีเคลมประกันรู้ใจไม่มีคู่กรณี
การเคลมประกันในกรณีที่ไม่มีคู่กรณีนั้นอาจเกิดขึ้นได้หลายสถานการณ์ เช่น รถชนวัตถุ รถถูกขโมยอุปกรณ์ หรือรถได้รับความเสียหายจากภัยธรรมชาติ รู้ใจมีขั้นตอนการเคลมที่ง่ายและสะดวกสำหรับกรณีเหล่านี้ ดังนี้:
- แจ้งเหตุทันที
- โทรแจ้งที่หมายเลข 02 582 8844 (สายด่วน 24 ชั่วโมง)
- หรือแจ้งผ่าน Roojai Mobile App
- ถ่ายรูปความเสียหาย
- ถ่ายภาพรอบคันรถ
- ถ่ายภาพจุดที่เกิดความเสียหายอย่างชัดเจน
- ถ่ายภาพสภาพแวดล้อมบริเวณที่เกิดเหตุ
- บันทึกรายละเอียดเหตุการณ์
- วันเวลาที่เกิดเหตุ
- สถานที่เกิดเหตุ
- ลักษณะการเกิดเหตุโดยละเอียด
- กรอกแบบฟอร์มแจ้งเคลม
- ดาวน์โหลดแบบฟอร์มจากเว็บไซต์ www.roojai.com/download
- กรอกรายละเอียดให้ครบถ้วน
- ส่งเอกสารและหลักฐาน
- ส่งแบบฟอร์มแจ้งเคลม รูปถ่าย และเอกสารประกอบอื่นๆ มาที่อีเมล [email protected]
- รอการติดต่อกลับ
- เจ้าหน้าที่จะติดต่อกลับภายใน 24 ชั่วโมงเพื่อแจ้งขั้นตอนต่อไป
- นำรถเข้าตรวจสอบ
- นำรถเข้าตรวจสอบที่อู่ในเครือตามที่บริษัทแนะนำ
- เจ้าหน้าที่จะทำการประเมินความเสียหายอย่างละเอียด
- รับการอนุมัติซ่อม
- เมื่อได้รับการอนุมัติ สามารถเริ่มดำเนินการซ่อมได้ทันที
- ติดตามสถานะการซ่อม
- ติดตามความคืบหน้าผ่าน Roojai Mobile App หรือโทรสอบถาม
- รับรถคืน
- ตรวจสอบความเรียบร้อยก่อนรับรถ
- ประเมินความพึงพอใจในการให้บริการ
ข้อควรระวังในการเคลมประกันรู้ใจ
- แจ้งเหตุทันที อย่ารอช้าในการแจ้งเหตุ เพราะอาจทำให้เสียสิทธิ์ในการเคลมได้
- ห้ามเคลื่อนย้ายรถก่อนได้รับอนุญาต ยกเว้นกรณีจำเป็นเพื่อความปลอดภัยหรือป้องกันการกีดขวางการจราจร
- ไม่ยอมรับผิดโดยพลการ รอให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบและประเมินความเสียหายก่อน
- เก็บหลักฐานให้ครบถ้วน ถ่ายรูป บันทึกรายละเอียด และเก็บเอกสารที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
- ตรวจสอบความคุ้มครอง ศึกษาเงื่อนไขความคุ้มครองในกรมธรรม์ให้เข้าใจก่อนทำการเคลม
- ไม่ซ่อมรถเองก่อนได้รับอนุมัติ รอการอนุมัติจากบริษัทก่อนนำรถเข้าซ่อม
- เลือกอู่ซ่อมที่ได้มาตรฐาน ใช้บริการอู่ในเครือหรือศูนย์ซ่อมที่บริษัทแนะนำเพื่อรับประกันคุณภาพงานซ่อม
- ติดตามสถานะการเคลมอย่างสม่ำเสมอ ใช้ช่องทางที่รู้ใจให้บริการเพื่อติดตามความคืบหน้าของการเคลม
- ตรวจสอบความถูกต้องของเอกสาร ก่อนส่งเอกสารใดๆ ให้บริษัท ควรตรวจสอบความถูกต้องและครบถ้วน
- รักษาสิทธิประโยชน์ของตนเอง หากมีข้อสงสัยหรือไม่เห็นด้วยกับผลการพิจารณา สามารถสอบถามหรืออุทธรณ์ได้
จุดเด่นของการเคลมประกันรู้ใจ
- ความรวดเร็วในการให้บริการ รู้ใจมีการรับประกันเวลาในการเดินทางไปถึงที่เกิดเหตุภายใน 30 นาทีในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ซึ่งช่วยให้ลูกค้าได้รับความช่วยเหลืออย่างทันท่วงที
- การใช้เทคโนโลยีในการเคลม Roojai Mobile App ช่วยให้การแจ้งเคลมและติดตามสถานะทำได้ง่ายและสะดวก โดยสามารถระบุตำแหน่งผ่าน GPS และส่งรูปภาพความเสียหายได้ทันที
- ช่องทางการเคลมที่หลากหลาย ลูกค้าสามารถเลือกช่องทางที่สะดวกที่สุดในการแจ้งเคลม ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์ แอปพลิเคชัน เว็บไซต์ หรืออีเมล
- การรับประกันคุณภาพงานซ่อม รู้ใจรับประกันคุณภาพงานซ่อมนานถึง 12 เดือน สำหรับการซ่อมที่อู่ในเครือ ซึ่งสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า
- ความโปร่งใสในการคำนวณเบี้ยประกัน รู้ใจใช้ระบบการคำนวณเบี้ยประกันแบบ Personalized Pricing ซึ่งพิจารณาจากปัจจัยเฉพาะบุคคล ทำให้ลูกค้าได้รับอัตราเบี้ยประกันที่เหมาะสมกับความเสี่ยง
- การให้บริการ 24 ชั่วโมง สายด่วนแจ้งเคลมและบริการช่วยเหลือฉุกเฉินพร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ไม่มีวันหยุด
- ความยืดหยุ่นในการเลือกแผนประกัน ลูกค้าสามารถปรับแต่งแผนประกันให้เหมาะกับความต้องการและงบประมาณ ซึ่งส่งผลต่อการเคลมในอนาคต
- การใช้ระบบตรวจสอบสภาพรถผ่านวิดีโอคอล ช่วยลดขั้นตอนและเวลาในการตรวจสภาพรถ ทำให้กระบวนการเคลมรวดเร็วยิ่งขึ้น
- โปรแกรมสะสมแต้ม Roojai Rewards ลูกค้าสามารถใช้แต้มสะสมแลกรับสิทธิประโยชน์ต่างๆ รวมถึงส่วนลดในการต่ออายุประกัน
- การให้ข้อมูลและคำแนะนำที่ชัดเจน รู้ใจมีการให้ข้อมูลเกี่ยวกับขั้นตอนการเคลมและสิทธิประโยชน์ต่างๆ อย่างละเอียดผ่านหลายช่องทาง
ข้อควรพิจารณาในการเคลมประกันรู้ใจ
- ขอบเขตการให้บริการ การรับประกันเวลาในการให้บริการ เช่น การถึงที่เกิดเหตุภายใน 30 นาที มีเฉพาะในเขตเมืองเท่านั้น ลูกค้าในพื้นที่ห่างไกลอาจต้องรอนานกว่า
- ความเหมาะสมกับผู้ใช้ ระบบการเคลมออนไลน์และแอปพลิเคชันอาจไม่เหมาะกับผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับเทคโนโลยี
- การตรวจสอบเงื่อนไขความคุ้มครอง ลูกค้าควรศึกษาเงื่อนไขความคุ้มครองในกรมธรรม์อย่างละเอียด เพื่อป้องกันปัญหาในการเคลม
- ข้อจำกัดของอู่ซ่อมในเครือ แม้จะมีอู่ในเครือจำนวนมาก แต่อาจไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่ ลูกค้าควรตรวจสอบรายชื่ออู่ในพื้นที่ของตนก่อน
- การพิจารณาค่าเสียหายส่วนแรก ลูกค้าควรพิจารณาเลือกค่าเสียหายส่วนแรกให้เหมาะสม เพื่อประหยัดเบี้ยประกันและไม่เป็นภาระเมื่อต้องเคลม
- ความเข้าใจในระบบ Personalized Pricing ระบบการคำนวณเบี้ยประกันแบบรายบุคคลอาจทำให้เบี้ยประกันสูงขึ้นสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงสูง
- การรักษาประวัติการขับขี่ที่ดี เนื่องจากรู้ใจใช้ระบบ Personalized Pricing การรักษาประวัติการขับขี่ที่ดีจะช่วยลดเบี้ยประกันในปีต่อไป
- การพิจารณาความคุ้มค่าของแผนประกัน ลูกค้าควรพิจารณาความคุ้มค่าของแผนประกันเทียบกับความเสี่ยงและงบประมาณของตน
- การเตรียมพร้อมสำหรับการเคลม ควรศึกษาขั้นตอนและเตรียมเอกสารที่จำเป็นไว้ล่วงหน้า เพื่อความสะดวกเมื่อต้องเคลม
- การติดตามข้อมูลและโปรโมชั่น ควรติดตามข้อมูลและโปรโมชั่นของรู้ใจอย่างสม่ำเสมอ เพื่อรับสิทธิประโยชน์ต่างๆ
สรุป
การเคลมประกันรู้ใจมีจุดเด่นในด้านความสะดวกและรวดเร็ว โดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในกระบวนการเคลม ทำให้ลูกค้าสามารถแจ้งเคลมและติดตามสถานะได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ ความหลากหลายของช่องทางการเคลมและการรับประกันคุณภาพงานซ่อม ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้รู้ใจได้รับความนิยม
อย่างไรก็ตาม ลูกค้าควรศึกษาเงื่อนไขความคุ้มครองและข้อจำกัดต่างๆ อย่างละเอียด เพื่อให้ได้รับประโยชน์สูงสุดจากประกันภัย และเตรียมพร้อมสำหรับการเคลมในอนาคต การเลือกแผนประกันที่เหมาะสมและการรักษาประวัติการขับขี่ที่ดี จะช่วยให้ได้รับเบี้ยประกันที่คุ้มค่าและมีความคุ้มครองที่ตรงกับความต้องการ
ด้วยคะแนนรวม 4.4/5 การเคลมประกันรู้ใจถือว่าอยู่ในระดับดีมาก โดดเด่นในด้านความสะดวกและช่องทางการเคลมที่หลากหลาย แม้จะมีข้อควรพิจารณาบางประการ แต่โดยรวมแล้วรู้ใจสามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในยุคดิจิทัลได้เป็นอย่างดี