ประกันมอเตอร์ไชค์ 2+ มีอะไรบ้าง คุ้มครองอะไรบ้าง

ประกันมอเตอร์ไซค์ชั้น 2+ เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ขับขี่ที่ต้องการความคุ้มครองที่มากกว่าประกันภาคบังคับ (พ.ร.บ.) แต่ไม่ต้องการจ่ายค่าเบี้ยประกันสูงเท่ากับประกันชั้น 1 บทความนี้จะอธิบายรายละเอียดของประกันมอเตอร์ไซค์ชั้น 2+ พร้อมทั้งข้อดี ข้อเสีย และการเปรียบเทียบกับประกันประเภทอื่น

ประกันมอเตอร์ไซค์ 2+
ประกันมอเตอร์ไซค์ 2+

อันดับประกันมอเตอร์ไซค์ 2+ แนะนำ

อันดับ บริษัทประกัน คะแนน จุดเด่น ความคุ้มครองสูงสุด
(ตัวรถ/สูญหาย/ไฟไหม้)
1 รู้ใจประกันภัย ★★★★★ – บริการเคลมออนไลน์ผ่านแอพ<br>- รับประกันถึงที่เกิดเหตุภายใน 30 นาที 100,000 บาท
2 ไทยไพบูลย์ประกันภัย ★★★★☆ – ราคาเบี้ยประกันแข่งขันได้<br>- รับรถอายุ 1-25 ปี 10,000 บาท
3 วิริยะประกันภัย ★★★★☆ – ชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือ<br>- บริการซ่อมห้างสำหรับรถบิ๊กไบค์ 100,000 บาท
4 แอลเอ็มจีประกันภัย ★★★☆☆ – ราคาเบี้ยประกันต่ำ<br>- เหมาะสำหรับรถอายุมาก 5,000 – 10,000 บาท
5 เออร์โก้ประกันภัย ★★★☆☆ – ไม่มีค่าเสียหายส่วนแรก<br>- รับประกันรถอายุไม่เกิน 5 ปี ไม่ระบุ

อันดับที่ 1: รู้ใจประกันภัย ★★★★★

รู้ใจ ประกันภัย
รู้ใจ ประกันภัย

จุดเด่น:

  • บริการเคลมออนไลน์ผ่านแอพพลิเคชัน
  • รับประกันถึงที่เกิดเหตุภายใน 30 นาทีในเขตพื้นที่ให้บริการ
  • ความคุ้มครองสูงสุด 100,000 บาทสำหรับความเสียหายต่อตัวรถและรถสูญหาย/ไฟไหม้

ข้อควรพิจารณา:

  • อาจมีข้อจำกัดด้านพื้นที่ให้บริการสำหรับการรับประกันถึงที่เกิดเหตุภายใน 30 นาที

อันดับที่ 2: วิริยะประกันภัย ★★★★☆

วิริยะประกันภัย
วิริยะประกันภัย

จุดเด่น:

  • ชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือสูง
  • บริการซ่อมห้างสำหรับรถบิ๊กไบค์
  • ความคุ้มครองสูงสุด 100,000 บาทสำหรับความเสียหายต่อตัวรถและรถสูญหาย/ไฟไหม้

ข้อควรพิจารณา:

  • อาจมีค่าเบี้ยประกันที่สูงกว่าบริษัทอื่นเล็กน้อย เนื่องจากชื่อเสียงและบริการที่ครอบคลุม

อันดับที่ 3: ไทยไพบูลย์ประกันภัย ★★★★☆

ไทยไพบูลย์ประกันภัย
ไทยไพบูลย์ประกันภัย

จุดเด่น:

  • ราคาเบี้ยประกันแข่งขันได้
  • รับประกันรถอายุ 1-25 ปี ซึ่งครอบคลุมกว่าหลายบริษัท

ข้อควรพิจารณา:

  • ความคุ้มครองสูงสุดเพียง 10,000 บาทสำหรับความเสียหายต่อตัวรถและรถสูญหาย/ไฟไหม้ ซึ่งอาจไม่เพียงพอสำหรับรถราคาแพง

อันดับที่ 4: แอลเอ็มจีประกันภัย ★★★☆☆

แอลเอ็มจีประกันภัย
แอลเอ็มจีประกันภัย

จุดเด่น:

  • ราคาเบี้ยประกันต่ำ
  • เหมาะสำหรับรถอายุมาก

ข้อควรพิจารณา:

  • ความคุ้มครองสูงสุดค่อนข้างต่ำ (5,000 – 10,000 บาท) สำหรับความเสียหายต่อตัวรถและรถสูญหาย/ไฟไหม้

อันดับที่ 5: เออร์โก้ประกันภัย ★★★☆☆

ERGO ประกันภัย
ERGO ประกันภัย

จุดเด่น:

  • ไม่มีค่าเสียหายส่วนแรก
  • รับประกันรถอายุไม่เกิน 5 ปี

ข้อควรพิจารณา:

  • ข้อมูลเกี่ยวกับวงเงินคุ้มครองสูงสุดไม่ชัดเจน
  • อาจไม่เหมาะสำหรับรถที่มีอายุมากกว่า 5 ปี

การเลือกบริษัทประกันที่ดีที่สุดสำหรับประกันมอเตอร์ไซค์ชั้น 2+ ขึ้นอยู่กับความต้องการและสถานการณ์เฉพาะของแต่ละบุคคล อย่างไรก็ตาม จากการวิเคราะห์:

  1. รู้ใจประกันภัย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกในการเคลมและการบริการที่รวดเร็ว
  2. วิริยะประกันภัย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความน่าเชื่อถือและบริการที่ครอบคลุม โดยเฉพาะเจ้าของรถบิ๊กไบค์
  3. ไทยไพบูลย์ประกันภัย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการประหยัดค่าเบี้ยประกันและมีรถอายุมาก
  4. แอลเอ็มจีประกันภัย และ เออร์โก้ประกันภัย อาจเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการทางเลือกที่ประหยัดที่สุดและยอมรับข้อจำกัดบางประการได้

ความคุ้มครองหลักของประกันมอเตอร์ไซค์ชั้น 2+

  1. ความเสียหายต่อตัวรถ:
    • คุ้มครองกรณีชนกับยานพาหนะทางบก
    • วงเงินคุ้มครองสูงสุด 5,000 – 100,000 บาท (ขึ้นอยู่กับแผนประกัน)
  2. รถสูญหาย/ไฟไหม้:
    • คุ้มครองกรณีรถถูกโจรกรรมหรือไฟไหม้
    • วงเงินคุ้มครองสูงสุด 5,000 – 100,000 บาท (ขึ้นอยู่กับแผนประกัน)
  3. ความรับผิดต่อบุคคลภายนอก:
    • ความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัย: 300,000 – 500,000 บาทต่อคน และ 10,000,000 บาทต่อครั้ง
    • ความเสียหายต่อทรัพย์สิน: 600,000 บาทต่อครั้ง
  4. ความคุ้มครองเพิ่มเติม (ขึ้นอยู่กับแผนประกัน):
    • ค่ารักษาพยาบาลสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร: 50,000 – 200,000 บาทต่อคน
    • อุบัติเหตุส่วนบุคคล: 50,000 – 200,000 บาทต่อคน
    • ประกันตัวผู้ขับขี่: 100,000 – 600,000 บาทต่อครั้ง

ข้อดีของประกันมอเตอร์ไซค์ชั้น 2+

  1. ค่าเบี้ยประกันที่คุ้มค่า: ราคาถูกกว่าประกันชั้น 1 แต่ให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมมากกว่าประกันชั้น 3
  2. คุ้มครองตัวรถในกรณีชนกับยานพาหนะทางบก: ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการซ่อมรถ
  3. คุ้มครองกรณีรถสูญหายหรือไฟไหม้: ให้ความอุ่นใจเมื่อต้องจอดรถในที่สาธารณะ
  4. ความคุ้มครองบุคคลภายนอกในวงเงินสูง: ลดความเสี่ยงทางการเงินกรณีเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง
  5. มีความคุ้มครองเพิ่มเติมที่น่าสนใจ: เช่น ค่ารักษาพยาบาล และประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล

ข้อเสียของประกันมอเตอร์ไซค์ชั้น 2+

  1. ไม่คุ้มครองกรณีเฉี่ยวชนกับวัตถุอื่นที่ไม่ใช่ยานพาหนะ: เช่น เสาไฟฟ้า หรือต้นไม้
  2. วงเงินคุ้มครองตัวรถอาจไม่เพียงพอสำหรับรถราคาแพง: โดยเฉพาะรถบิ๊กไบค์
  3. อาจมีค่าเสียหายส่วนแรก: ผู้เอาประกันต้องรับผิดชอบค่าเสียหายส่วนแรกในบางกรณี
  4. ข้อจำกัดด้านอายุรถ: บางบริษัทอาจไม่รับประกันรถที่มีอายุมากเกินกำหนด
  5. ความคุ้มครองอาจไม่ครอบคลุมอุปกรณ์ตกแต่งเพิ่มเติม: ต้องซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติมแยกต่างหาก

เปรียบเทียบประกันมอเตอร์ไซค์ชั้น 2+ กับประกันประเภทอื่น

ตารางเปรียบเทียบประกันมอเตอร์ไซค์
ตารางเปรียบเทียบประกันมอเตอร์ไซค์

ตารางเปรียบเทียบความคุ้มครอง

ประเภทความคุ้มครอง ประกันชั้น 1 ประกันชั้น 2+ ประกันชั้น 3+ ประกันชั้น 3
ชนกับยานพาหนะทางบก
ชนกับวัตถุอื่น
รถสูญหาย/ไฟไหม้
บุคคลภายนอก (ชีวิต/ทรัพย์สิน)
ค่ารักษาพยาบาล opcional opcional opcional
อุบัติเหตุส่วนบุคคล opcional opcional opcional
ประกันตัวผู้ขับขี่

ข้อแตกต่างที่สำคัญ

  1. เทียบกับประกันชั้น 1:
    • ประกันชั้น 2+ มีค่าเบี้ยประกันที่ถูกกว่า
    • ประกันชั้น 1 คุ้มครองกรณีชนกับวัตถุอื่นที่ไม่ใช่ยานพาหนะด้วย
  2. เทียบกับประกันชั้น 3+:
    • ประกันชั้น 2+ คุ้มครองกรณีรถสูญหาย/ไฟไหม้เพิ่มเติม
    • ประกันชั้น 3+ มักมีค่าเบี้ยประกันที่ถูกกว่า
  3. เทียบกับประกันชั้น 3:
    • ประกันชั้น 2+ คุ้มครองตัวรถในกรณีชนกับยานพาหนะทางบก
    • ประกันชั้น 3 มีค่าเบี้ยประกันที่ถูกที่สุด แต่คุ้มครองเฉพาะบุคคลภายนอกเท่านั้น

สรุป: ประกันมอเตอร์ไซค์ชั้น 2+ เหมาะสำหรับใคร?

ประกันมอเตอร์ไซค์ชั้น 2+ เหมาะสำหรับผู้ขับขี่ที่ต้องการความคุ้มครองที่มากกว่าประกันภาคบังคับ แต่ไม่ต้องการจ่ายค่าเบี้ยประกันสูงเท่ากับประกันชั้น 1 โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหมาะกับ:

  1. ผู้ที่ใช้รถในเมืองหรือพื้นที่ที่มีการจราจรหนาแน่น: เนื่องจากมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุชนกับยานพาหนะอื่นสูง
  2. ผู้ที่ต้องจอดรถในที่สาธารณะเป็นประจำ: ได้รับความคุ้มครองกรณีรถสูญหายหรือไฟไหม้
  3. ผู้ที่ต้องการความคุ้มครองที่ครอบคลุมในราคาที่สมเหตุสมผล: ไม่สูงเกินไปเมื่อเทียบกับมูลค่ารถ
  4. เจ้าของรถที่มีอายุการใช้งาน 1-5 ปี: ได้รับความคุ้มครองที่เหมาะสมกับมูลค่ารถ

อย่างไรก็ตาม ผู้ขับขี่ควรพิจารณาความเสี่ยงและความต้องการส่วนบุคคล รวมถึงเปรียบเทียบแผนประกันจากหลายบริษัทก่อนตัดสินใจเลือกซื้อประกันมอเตอร์ไซค์ชั้น 2+ เพื่อให้ได้ความคุ้มครองที่เหมาะสมที่สุดในราคาที่คุ้มค่า